"นั่งสมาธิแล้ว มีความสุขอย่างไร"
วันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2559
การนั่งสมาธิแต่ละวัน ทำให้เรามีเวลาพิจารณากาย วาจา ใจเรา ทำให้เราได้พิจารณากิจกรรมที่เราทำมาแต่ในแต่ละวัน ว่าเราทำอะไรไปบ้าง มีกิจกรรมใดที่เราผิดศีล ผิดธรรม หรือกิจกรรมใดที่เราทำให้เราได้รักษาศีล ละความโกรธ ทำให้เราอยากทำทาน ละความตระหนี่ ทำให้เราได้ปัญญา เวลาใจเราออกจากศูนย์กลางกาย ไปเกาะเกี่ยวกับสิ่งภายนอก เราจะคิดว่าถ้าเราเกิดเป็นอะไรไปตอนนี้ไม่ดีแน่ เราต้องรีบนำจิตใจเรากลับมาอยู่ที่ศูนย์กลางกายแล้วสัมมาอะระหัง นึกถึงพระพุทธเป็นอารมณ์ คิดว่าถ้าเราเป็นอะไรไปเราน่าจะไปดี ไปด้วยบุญ เข้าวัดพระธรรมกายใหม่ๆจำได้ว่า หลวงพ่อธัมมชโย เทศนาไว้ว่า ถ้าเราเข้าไม่ถึงพระธรรมกายภายในเราจะไปสวรรค์ไม่ได้ โดยเฉพาะสวรรค์ชั้นที่๔ ดุสิตบุรี เราจึงตั้งใจที่จะนั้งสมาธิ ข้อดีในการนั่งสมาธิคือ เราได้พิจารณากิจกรรมในแต่ละวัน เราได้แผ่เมตตา ให้สรรพสัตว์ทั้งหลาย เราได้อธิฐานจิต การนั่งสมาธิ เราชอบนั้งแบบฟังเสียงหลวงพ่อธัมมชโยด้วยจึงทำให้เรามีความรู้สึกว่าได้ฟังธรรมะไปด้วย การนั่งสมาธิทำให้จิตใจเรานิ่ง มีเวลานิ่ง แล้วทำให้ใจเรามีฤทธิ์ไม่หวั่นไหวในการทำความดี เพิ่มเติมศรัทธาต่อไป
จากคำสอนมหาปูชนียาจารย์ เมื่อจิตพลัดออกนอกทาง คือ จิตหมุนไปในอารมณ์ต่าง ๆ เพราะเว้นจากสมาธิ..... ท่านเหล่านั้นขาดสมาธิ เป็นเหตุที่อุทธัจจะได้โอกาส เปรียบเหมือนลิงในป่ากระโดดมาตามกิ่งไม้ในป่าฉะนั้น การได้อารมณ์เหมือนการจับกิ่งไม้ ลิงนั้นเที่ยวไปในป่า ปล่อยกิ่งไม้นั้น ๆ แล้วไปจับกิ่งไม้อื่น ๆ ฉันใด แม้จิตนี้ก็ฉันนั้น กระท่อม คือร่างกระดูกนี้ เป็นที่อยู่อาศัยของลิงคือจิต เพราะฉะนั้น ลิงคือจิต จึงกระเสือกกระสนออกจากกระท่อมที่มีประตู ๕ พยายามวิ่งวนไปมาทางประตูบ่อย ๆ จิตนี้ อันภิกษุผู้ปรารภความเพียรยกขึ้นจากอาลัย คือ กามคุณ ๕ แล้วซัดไปในวิปัสสนากัมมัฏฐานเพื่อละบ่วงมาร ย่อมดิ้นรนดุจปลาอันพรานเบ็ดยกขึ้นจากน้ำ แล้วโยนไปบนบกดิ้นรนอยู่ ฉะนั้น จิตนี้กวัดแกว่งเช่นวานร ห้ามได้แสนยาก เพราะยังไม่ปราศจากความกำหนัด
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)